อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 9 วันที่ 8 ก.ย. 56

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 9 วันที่ 8 ก.ย. 56

แอปเปิ้ล ปีโป้และจีจี้เห็นพวกห่านผิดใจกันก็ยืนหัวเราะสะใจกันคิกคัก ห่านเดาได้ทันที ตรงเข้าไปถามว่า พวกเธอเป็นคนไปฟ้องพรเพ็ญใช่ไหม พอเจอคู่ปรับร่วมกัน เจ๊ แหม่มและห่าน ก็หันมาเล่นงานคู่ปรับอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ระหว่างตบตีกันนั้น แอปเปิ้ลกระชากสร้อยร้อยแหวนเพชรของห่านขาด แหวนกระเด็นไปที่ใต้ชั้น ไม่มีใครเห็นแอปเปิ้ลถอดรองเท้าปาใส่ห่าน แต่ห่านหลบทัน รองเท้าเลยลอยไปกระแทกหน้าปีโป้จนสลบ ส่วนรองเท้ากระเด็นไปอยู่ใต้ชั้นใกล้ๆแหวนของห่าน



ขณะสามสาวกำลังมะรุมมะตุ้มกันนัวเนีย แอปเปิ้ลเจ็บใจที่ปารองเท้าไม่ถูกห่านเลยถอดอีกข้างปาใหม่ พอดีพรเพ็ญเดินมาเลยโดนรองเท้ากระแทกหน้าเข้าเต็มๆ ทุกคนช็อก เงียบกริบ!

พรเพ็ญหยิบรองเท้าที่ปาหน้าตนขึ้นถามเสียงเพชฌฆาต “รองเท้าใคร?” มองกราดไปที่เท้าทุกคน จึงรู้ว่าเป็นของแอปเปิ้ลที่ยืนเท้าเปล่าอยู่

ทั้งหกถูกเรียกไปที่ห้องทำงานของพรเพ็ญ ถูกอบรมยาวเหยียด และสุดท้ายทุกคนถูกสั่งลงโทษด้วยการให้ใส่ชุดมาสคอตรูปสัตว์ต่างๆไปยืนแจกใบปลิวฝ่ายละประตู

“คอยดูนะ พวกฉันจะต้องแจกใบปลิวได้หมดก่อนพวกแก” เจ๊มะพร้าวปรามาส ต่างท้าทายกัน แล้วแยกกันไปแจกใบปลิว ประตูใครประตูมัน

ปรากฏว่าพวกแอปเปิ้ลแจกใบปลิวได้เร็วกว่า เจ๊กับพวกก็พร้อมใจกันดาหน้าเข้าไปจับหัวมาสคอตหมุนไปข้างหลังทำให้พวกแอปเปิ้ลมองไม่เห็นทางชนกันจนใบปลิวหล่นเกลื่อนกระจาย

พวกเจ๊มะพร้าวเอามือปิดปากหัวเราะกันคิกคักสะใจ

ผ่านการถูกลงโทษและช่วยกันฟาดฟันพวกแอปเปิ้ล ทำให้เจ๊ ห่านและแหม่ม กลับมารักกันเหมือนเดิม

แต่ก็มีเรื่องให้ใจหายใจคว่ำจนได้ เมื่อแหม่มบอกห่านว่าสร้อยที่คอห่านหายไป

“เฮ้ย!” ห่านกุมคอตัวเองหน้าซีดเผือด!

ooooooo

แอปเปิ้ลเก็บรองเท้าข้างที่ปาถูกหน้าพรเพ็ญ แต่อีกข้างหายไปไหนยังไม่เจอ บอกปีโป้กับจีจี้ให้ไปช่วยหาด้วย ส่วนตัวเองไปสอดมือควานไปใต้ชั้น บริเวณที่ตะลุมบอนกัน

นอกจากเจอรองเท้าแล้ว แอปเปิ้ลยังเจอแหวนเพชรเม็ดโตอีกด้วย ปีโป้ถามว่าเพชรจริงหรือเก๊ แอปเปิ้ลบอกว่าจริงหรือไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันสวยมาก แล้วเอาใส่นิ้วนางมือขวาทันที

“ฉันว่าเอาไปให้คุณผู้จัดการหาเจ้าของดีกว่า” จีจี้เสนอ

“เกิดจะเป็นแม่พระขึ้นมารึไงนังจี้! ฉันไม่มีทางเอาไปให้คุณผู้จัดการหรอก ใครเก็บได้คนนั้นก็เป็นเจ้าของ” แอปเปิ้ลมองแหวนในมืออย่างหวงแหน เอารองเท้า ข้างที่หาเจอใส่ครบคู่ หยิบสร้อยเส้นเล็กทิ้งถังขยะแถวนั้นแล้วพากันกลับไป

พอสามสาวตัวแสบคล้อยหลัง ห่าน เจ๊มะพร้าว และแหม่มก็เดินหน้าตื่นเข้ามา

“ใจเย็นๆห่าน เจ๊ว่ามันตกอยู่แถวนี้แหละ”

“แหวนเพชรเม็ดเป้งขนาดนั้น จะไม่มีคนเก็บไปแล้วเหรอเจ๊” ห่านหน้าเสีย แล้วพากันก้มหาแหวนไปตามใต้ชั้น

ooooooo

บื้อเอาแต่นั่งซึมนอนซมจนหมดสติไป สองน้ามาดูจึงรู้ว่าบื้อตัวร้อนจี๋ รีบพาส่งโรงพยาบาลแล้วโทร. บอกโย่ง

พอวางสายจากสองน้า โย่งก็บอกลุงจ๊อดกับโจ๊กที่นั่งกินข้าวกันอยู่ ลุงจ๊อดร้องโวยวายแล้ววิ่งอ้าวออกไป

“ลุงจ๊อดเป็นไร พี่ยังพูดไม่จบจะบอกว่าไอ้บื้อเป็นไข้หวัดใหญ่ไข้สูงจนเป็นลม ก็เลยพาส่งโรงพยาบาล ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย” โย่งถามโจ๊กงงๆ

“ลุงผมก็เว่อร์แบบนี้แหละครับ อย่าสนใจเลย กินข้าวต่อเถอะพี่” โจ๊กพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนแล้วชวนกันกินข้าวต่อ

ลุงจ๊อดวิ่งหน้าตั้งไปที่บ้านบื้อร้องไห้เป็นวักเป็นเวร บอกพวกห่านที่เพิ่งกลับมากันอย่างห่อเหี่ยวที่หาแหวนไม่เจอว่า “ไอ้บื้อ...ไอ้บื้อตายแล้วววว”

ห่านเข่าอ่อนแทบทรุด บอกลุงจ๊อดว่าอย่าอำเล่นกันแบบนี้มันไม่ดี ลุงจ๊อดยืนยันว่าตนพูดจริง แหม่มถามว่าแล้วตอนนี้บื้ออยู่ไหน พอลุงจ๊อดบอกว่าอยู่ชลบุรี ห่านก็เดินจ้ำอ้าวออกไปทันที แหม่มตะโกนถามว่าจะไปไหน ห่านไม่ตอบ เดินไปเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ผ่านมาพอดี โดดซ้อนท้ายไปทันที

“น้องยังไม่ได้บอกพี่เลยว่าจะไปไหน” มอเตอร์ไซค์รับจ้างถาม ห่านบอกว่าไปชลบุรี มอเตอร์ไซค์รับจ้างตะโกน “ช่องนนทรี???” ห่านตะโกนบอกว่าชลบุรี!! มอเตอร์ไซค์รับจ้างร้อง “อ๋อ...นนทบุรี”

“ไม่ใช่! ชลบุรี!!” ห่านตะโกนสุดเสียง มอเตอร์ไซค์รับจ้างเบรกเอี๊ยดถามว่าตนไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม “พี่ไม่ได้ฟังผิด ฉันให้พิเศษ...พี่ช่วยพาฉันไปหน่อย”

คนขับนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วพยักหน้า หันไปบิดมอเตอร์ไซค์พุ่งไปทันที

แหม่มกลับไปที่บ้านจึงรู้จากโย่งว่าบื้อแค่เป็นไข้หวัดใหญ่ ลุงจ๊อดบ่นว่าทำไมไม่รีบบอกว่าบื้อยังไม่ตาย ขยี้หัวตัวเองบ่น “เวรแล้วไหมล่ะ”

แหม่มโทร.หาห่านเพื่อจะบอกว่าบื้อแค่เป็นไข้หวัด ใหญ่แต่ไม่มีคนรับสาย แหม่มคาดว่าห่านคงไปชลบุรี

ooooooo

ห่านไปถึงชลบุรีเอาเกือบดึก ไปทุบประตูร้าน “ตุ้มเต๊ะอาหารทะเล” ปังๆๆ พลางร้องเรียกน้าตุ้มน้าเต๊ะ

สองน้าเพิ่งกลับมา เห็นเงาตะคุ่มๆก็ตกใจนึกว่าผีหลอก พอรู้ว่าเป็นห่านก็โล่งอก ห่านถามว่าบื้อเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้อยู่ที่ไหน

น้าตุ้มบอกว่าบื้อเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้สูงมากจนหมดสติ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอบอกให้อยู่ดูอาการสักคืน ถ้าไม่มีไข้พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว

ห่านฟังแล้วเหวอ พูดไม่ออก เพราะลุงจ๊อดบอกว่าบื้อตายแล้วตนถึงได้เสี่ยงตายนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากกรุงเทพฯมา แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร บอกสองน้าให้พักผ่อนเสีย ตนจะไปเฝ้าบื้อเอง

สองน้ามองหน้าแบบรู้กัน ว่าสองคนนี้คงมีอะไรกัน พยักหน้าชวนกันกลับแบบเปิดโอกาสให้เต็มที่

ห่านหันมองบื้อที่ยังหลับอยู่ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ฝ่ายแหม่มกับโย่งเป็นห่วงห่าน พยายามโทร.หาก็ไม่ติด จนดึกจึงได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ แหม่มบอกโย่งว่าไม่ใช่เบอร์ของห่าน แต่พอรับสายก็ร้องดีใจ

“ไอ้ห่าน!!! นี่แกจริงๆด้วย...ตอนนี้แกอยู่ไหน”

“ฉันอยู่โรงพยาบาล...บื้อไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่นอนรอดูอาการ”

“งั้นก็ค่อยยังชั่ว ว่าแต่มือถือแกเป็นไร ทำไมฉันโทร.หาไม่ได้”

“แบตหมดน่ะสิ ไม่รู้ตัวเลย คืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าบื้อจนกว่าบื้อจะฟื้น ถ้าไงพรุ่งนี้ฝากแกลางานให้ฉันที”

แหม่มบอกว่าไม่ต้องห่วงและฝากเยี่ยมบื้อด้วย โย่งยื่นปากไปพูดใส่มือถือว่า “ฉันฝากเยี่ยมด้วยอีกคนนะห่าน” ห่านถามว่าสองคนอยู่ด้วยกันหรือ โย่งรีบบอกว่า “ใช่...ฉันอยู่ด้วยกัน สอง...ต่อ...สอง...”

“อยู่ด้วยกันสองต่อสองก็จริง แต่ต่างคนต่างอยู่ในรั้วบ้านของตัวเอง แค่นี้นะห่าน” แหม่มตัดบทแล้วหันจิกโย่ง “วันหลังพูดจาให้มันเคลียร์ๆชัดๆเข้าใจป่ะ!”

“เข้าใจครับพ้ม!” โย่งยืนตรงตะเบ๊ะฟึ่บ แหม่มส่ายหน้ากับความล้นของโย่งแล้วเดินกลับเข้าบ้าน กระนั้นก็ยังได้ยินโย่งส่งเสียงหวานตามมา “ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะครับแหม่ม...”

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น บื้อลืมตาขึ้นมา เห็นห่านฟุบหลับอยู่ข้างเตียง บื้อกะพริบตาเพ่งมองอย่างไม่แน่ใจ

“ห่าน?...ไม่จริง...ฉันต้องฝันไปแน่ๆ” แล้วบื้อก็หลับตาลงอีกครั้งอย่างอ่อนเพลีย

ห่านตื่นขึ้นมามองไปที่เตียงเห็นบื้อยังหลับอยู่จึงลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ บื้อลืมตาอีกทีไม่เห็นห่านแล้ว ก็เชื่อว่าตนฝันไปจริงๆด้วย บื้อลุกขึ้นนั่ง ห่านออกจากห้องน้ำเห็นบื้อลุกขึ้นแล้วก็ดีใจมากถลาเข้าหา

“บื้อ...ฉันดีใจจริงๆที่นายฟื้น” แล้วห่านก็ผละออกมาเมื่อเห็นบื้อนั่งเหวอ “บื้อ...นายเป็นอะไร”

บื้อบอกให้ห่านหยิกแก้มตน พอห่านหยิกจึ๊กก็ร้องจ๊าก บอกให้ปล่อยแทบไม่ทัน ห่านถามว่าไข้ขึ้นจนเพี้ยนไปแล้วหรือ บื้อบอกว่าตนแค่อยากทดลองดูว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่าที่เห็นห่านอยู่ตรงหน้า

“รู้แล้วใช่ไหม ว่าไม่ได้ฝัน” ห่านถามขำๆ

“อื้อ...ว่าแต่...เธอมาได้ไง?”

ห่านยิ้มแล้วเล่าขำๆ ว่าลุงจ๊อดบอกว่าเขาตายแล้ว ตนตกใจเลยนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารวดเดียวเลย บื้อพึมพำทึ่งนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำแบบนี้...

“ฉันห่วงนายมากนะบื้อ...นายเป็นเพื่อนฉันนะ อย่าลืม”

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 9 วันที่ 8 ก.ย. 56

ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ