อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 3 วันที่ 20 ก.ย. 56

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 3 วันที่ 20 ก.ย. 56

“ถ้าเราติดไป แล้วมีคนมาปิดทับจะทำอย่างไร” โบ้อดสงสัยไม่ได้ เท่ห์แนะให้ติดโปสเตอร์ในเวลากลางดึกยิ่งใกล้เช้ายิ่งดีจะได้ไม่มีใครมาติดโปสเตอร์อื่นทับ งานนี้หรั่งขอทำด้วย อะไรที่ได้เงินเขาเอาหมดทุกอย่าง...

ค่ำวันเดียวกัน ตะวันฉายพาแพรวามากินดินเนอร์ที่ร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่งเพื่อแก้ตัวเรื่องเมื่อตอนกลางวัน แทนที่จะเป็นมื้อค่ำแสนหวาน กลับกร่อยไปทันทีเพราะเธอเอาแต่พูดเรื่องจะให้เขาไปเป็นผู้ช่วยของเธอให้ได้ ตะวันฉายพยายามอธิบายว่ากำลังวางแผนจะทำธุรกิจกับเพื่อนไม่มีเวลาทำอย่างที่เธอต้องการ เธอก็ไม่ฟังบ่นตั้งแต่อยู่ในร้านอาหาร กระทั่งขึ้นรถจะกลับบ้านก็ไม่ยอมหยุดบ่น


ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดอ้างว่าถ้ายอมไปเป็นผู้ช่วยแพรวาเท่ากับต้องทำตามคำสั่งของเธอ เขาเป็นผู้ชายจะไปเป็นขี้ข้าให้ผู้หญิงได้อย่างไร แพรวาโต้ว่าไม่ได้ให้เขามาเป็นขี้ข้าแต่มาเป็นผู้ช่วย อีกไม่นานพอเราอยู่ด้วยกันเขาก็ต้องมาช่วยงานพ่อของเธออยู่ดี ถึงตอนนั้นเขาต้องมีตำแหน่งใหญ่กว่าเธอ ใหญ่กว่าใครต่อใครอยู่แล้ว

“นี่น้องแพรคิดเลยเถิดไปว่าเราจะอยู่ด้วยกันเลยหรือ”

“แปลว่าพี่ตะวันจะไม่อยู่กับน้องแพรใช่ไหม” แพรวาตัดพ้อทั้งน้ำตา ตะวันฉายไม่รู้ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเป็นฝ่ายพูดกับผู้ชายเรื่องแบบนี้ก่อนและที่สำคัญแค่พูดกันยังไม่รู้เรื่อง จะไปคุยเรื่องจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร แพรวาผิดหวังอย่างแรงเปิดประตูจะลงจากรถทั้งๆ ที่ยังแล่นอยู่ เขาโมโหจัดกระแทกเบรกตัวโก่ง พอรถหยุด แพรวาแทบจะกระโจนลงมาแล้วเหวี่ยงประตูปิดปัง รถของตะวันฉายพุ่งออกไปทันที

ooooooo

แพรวาเพิ่งรู้สึกตัวว่าบรรยากาศรอบๆ เงียบสงัด ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งริมถนนด้วยน้ำตานองหน้า ไกลออกไปด้านหลัง มีรถกระบะที่หรั่งกับเพื่อนๆ ใช้เป็นพาหนะในการปิดโปสเตอร์แล่นมาจอด ทุกคนกรูกันลงมาปิดโปสเตอร์ไปตามกำแพง ยกเว้นหรั่งที่เดินเข้ามาหาแพรวาซึ่งหันไปมองพอดี ถึงกับปล่อยโฮลั่น

“ทำไมทุกครั้งที่ฉันเดือดร้อน นายต้องโผล่หน้ามาทุกที”

หรั่งชูพวงกุญแจไอ้มดแดงให้ดู แล้วถามว่าทำไมมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ ทะเลาะกับแฟนมาใช่ไหม แพรวายังไม่ทันจะตอบ เสียงเพื่อนๆ ตะโกนเรียกหรั่งให้ไปกันได้แล้ว ยังเหลือโปสเตอร์ต้องปิดอีกกองโต แพรวาบอกให้เขาไปก่อนไม่ต้องห่วง ชายหนุ่มพะว้าพะวังถามเธอว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะนั่งรอแฟนอยู่ตรงนี้หรือ

“ถ้านายเป็นแฟนฉัน นายจะกลับมารับฉันไหม” แพรวาถามพลางสะอื้นไปด้วย

“ไม่...ถ้าผมเป็นแฟนคุณ ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณไว้อย่างนี้เด็ดขาด”

เสียงเพ่ือนตะโกนเรียกหรั่งอีกครั้ง แพรวาขอไปติดโปสเตอร์ด้วย ถ้าแฟนของเธอย้อนกลับมารับจะได้

ไม่เจอกัน เขาจะได้รู้รสชาติของการผิดหวังเสียบ้าง แล้วทั้งคู่วิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่...

การติดโปสเตอร์ครั้งนี้แม้จะเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากติดตั้งแต่หัวค่ำยันดึกแต่ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานโดยเฉพาะหรั่งดูจะมีความสุขมากกว่าใครเพื่อน หลังจากงานเสร็จ รถกระบะพาแพรวากลับมาส่งที่เดิมที่เจอกัน หรั่งไม่อยากทิ้งเธอไว้ลำพังคนเดียวริมถนน จึงตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อน แพรวาอยากรู้ว่าถ้าเขาไม่มีรถ ไม่มีเงินกลับบ้านจะทำอย่างไร หรั่งก็จะเดินกลับ จากนั้น สองหนุ่มสาวพากันออกเดินมุ่งหน้าสู่บ้านแพรวา...

ระหว่างทางกลับบ้าน แพรวาอดสงสัยไม่ได้ที่หรั่งเคยบอกเอาไว้ตอนอยู่บนชิงช้าสวรรค์ว่าทำทุกอย่างที่ได้เงิน เธออยากรู้ว่ามีงานอะไรบ้างที่เขาทำไม่ได้ ชายหนุ่มตอบโดยไม่คิดว่ามีมากมาย ไม่มีใครทำอะไรเป็นทุกอย่าง เพียงแต่เขาเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรที่ทำไม่เป็นจะยิ่งพยายามถาม พยายามฝึกจนกว่าจะทำเป็น แต่มีข้อแม้เฉพาะสิ่งที่เขารักที่จะทำเท่านั้น เพราะความรักบังคับกันไม่ได้

“ฟังดูดีจังเลยแล้วถ้างานที่นายรักต้องอยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้หญิงล่ะ”

หรั่งไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ผู้หญิงเก่งๆ มีถมไป เพียงแต่ผู้ชายชอบที่จะเป็นผู้นำมากกว่า แต่การเป็นผู้นำสำหรับเขาแล้วไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ข้างหน้าเสมอไป บางคนอาจจะเกิดมาเพื่อผลักดันให้ใครสักคนขึ้นไปเป็นดาวประดับฟ้า ที่เขาจะปีนขึ้นไปหาใครคนนั้นสักวัน...

ดึกมากแล้วกว่าหรั่งกับแพรวาเดินเท้ามาถึงบ้านของฝ่ายหลัง เธอขอบใจเขามากที่ทำให้ผ่านค่ำคืนนี้มาได้ เขาอวยพรให้เธอโชคดี แล้วยืนส่งจนเธอเดินหายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์หลังนั้น...

แพรวาเข้ามาในบ้านเห็นพ่อกับแม่นั่งหน้าเครียดรออยู่ที่ห้องโถงโดยมีตะวันฉายนั่งอยู่ใกล้ๆ เธอยังโกรธแฟนหนุ่มไม่หายจะเดินหนีขึ้นบ้าน แต่เผ่าลาภเรียกไว้ ถามเสียงเข้มว่าหายไปไหนมา ตะวันฉายเล่าให้ท่านฟังว่าเธอลงจากรถทั้งๆ ที่มันยังแล่นอยู่ ไม่มีใครสั่งสอนหรือว่าทำแบบนั้นอันตรายแค่ไหน

“แล้วใครสั่งใครสอนพี่ตะวันว่าถ้าแฟนลงจากรถได้ ก็ให้ทิ้งไว้อย่างนั้นเลย” แพรวาหันไปแว้ดใส่แฟนหนุ่ม

ตะวันฉายแก้ตัวว่ากลับไปรับแพรวาแล้วแต่ไม่พบ ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยมานั่งรอที่นี่ แพรวาเบื่อจะฟังคำแก้ตัวของเขา เดินหนีขึ้นบ้านไปเลย

ooooooo

เมื่อคืนนี้หรั่งแทบจะไม่ได้นอน จึงมานั่งหลับที่โต๊ะทำงาน ผู้จัดการธนาคารต้องเข้ามาสะกิด สั่งให้เพลาๆเรื่องรับงานพิเศษลงบ้าง ตอนนี้เขาเป็นพนักงานประจำแล้ว ใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี เผื่อต่อไปจะปรับตำแหน่งสูงขึ้นจะได้ไม่มีใครมาขุดคุ้ยความประพฤติ หรั่งนิ่วหน้างงๆ

“งงใช่ไหมล่ะ คืออย่างนี้ไอ้วุฒิการศึกษาของนายน่ะแค่พนักงานธุรการดูจะน้อยไป ไอ้ตำแหน่งพนักงานหน้าเคาน์เตอร์น่ะดูเหมือนจะว่างอยู่ ฉันว่าจะรบกวนให้นายช่วยทำให้หน่อย เงินเดือนก็จะสูงขึ้นด้วยนะ”

หรั่งตื่นเต้นดีใจที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ขออนุญาตผู้จัดการลางานครึ่งชั่วโมงจะไปบอกข่าวดีให้น้องสาวรู้...

ด้านเผ่าลาภรู้ตัวว่าสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีนักจึงเรียกน้องๆซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น รวมทั้งแพรวาและกฤษฎามาประชุมเป็นการเร่งด่วน เพื่อประกาศว่าถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไป จะให้แพรวารักษาการประธานบริษัทแทนเขาไปก่อน เพราะดูแล้วน้องๆทุกคนของเขาไม่มีใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ บารมีค้านทันที ถ้าคิดจะให้คนรุ่นใหม่มาบริหารงานแทนคนรุ่นเก่าอย่างพวกตน ก็น่าจะเป็นกฤษฎาซึ่งเป็นผู้ชายอย่างน้อยก็เข้มแข็งกว่าแพรวา แล้วยุให้โหวตกันว่าจะยอมให้แพรวาหรือให้กฤษฎาเป็นคนสืบทอดตำแหน่ง เผ่าลาภไม่พอใจตบโต๊ะเปรี้ยง

“ไม่ต้องโหวต...นี่คือคำสั่งของประธานบริษัท ใครไม่เชื่อก็ถอนชื่อออกไปจากตระกูลนี้เลย” แล้วสั่งเลิกการประชุม จากนั้นเผ่าลาภเข้าไปเลียบๆเคียงๆถามลูกสาวว่าได้คนที่จะมาเป็นผู้ช่วยหรือยัง เธอหาได้แล้ว เผ่าลาภอยากรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทำงานที่ไหนมาก่อน แพรวาเองก็ตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าเขาเป็นคนดีและมักจะโผล่มาช่วยเหลือเธอทุกครั้งที่เดือดร้อน...

แพรวาไม่รอช้าตรงไปหาหรั่งที่ทำงาน แจ้งความประสงค์ว่าต้องการให้เขามาเป็นผู้ช่วยของเธอ มีเงินให้เดือนละสองหมื่นห้าพันบาท หรั่งตกใจคาดไม่ถึง ถามว่าแค่เมื่อคืนที่เราไปติดโปสเตอร์ด้วยกันทำให้เธอไว้ใจเขาขนาดนี้เลยหรือ แพรวาพยักหน้ารับ จะให้เวลาเขาไตร่ตรองหนึ่งอาทิตย์ ตัดสินใจได้แล้วให้โทร.บอกเธอด้วย

“ถ้าฉันไม่เดือดร้อนจริงๆฉันไม่เรียกหาไอ้มดแดง หรอก” แพรวาพูดจบลุกออกไป...

ขณะที่หรั่งครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับข้อเสนอของแพรวา คำรณซึ่งแวะมาเช่าเครื่องดนตรีจากน้าเบิ้มได้ยินเสียงไวโอลินที่ก้อยบรรเลง ประทับใจในความสามารถ ก่อนไปเขาทิ้งนามบัตรไว้ให้ ถ้าเกิดเธอคิดจะเอาดีทางด้านเล่นดนตรีขอให้บอก เขากำลังคิดจะปั้นวงดนตรีคนตาบอดขึ้นมาสักวงหนึ่งอยู่พอดี ก้อยฝากนามบัตรใบนั้นไว้กับน้าเบิ้ม เผื่อคำรณมีงานอะไรที่เธอทำได้ให้เขาช่วยบอกด้วย เธออยากช่วยหรั่งหาเงิน...

แม้จะเกรงใจผู้จัดการธนาคารรัตนทรัพย์ แต่สุดท้ายหรั่งตัดสินใจจะรับข้อเสนอของแพรวา ลองปรึกษากับสามเพื่อนซี้ รวมทั้ง ก้อย ผู้ใหญ่เงาะ และน้าเบิ้ม ต่างเห็นด้วยกับเขา มีเพียงก้อยเท่านั้นที่ไม่ได้พูดอะไร น้าเบิ้มตั้งข้อสังเกตว่าแค่เป็นผู้ช่วยแต่ทำไมได้เงินเดือนมากกว่าที่เก่าถึงสามเท่าแบบนี้ จะโดนหลอกหรือเปล่า

“เจ้านายสวยขนาดนี้ หลอกก็ยอม งานหนักสักร้อยเท่าก็เอา นางในฝันของมันเสียด้วยสิ นี่ถ้าไอ้หรั่งไม่ทำฉันว่าจะขออาสาทำแทน แหมสวยออก...” เช็งพร่ำเพ้อยังไม่ทันจบ เท่ห์ถีบโครมฐานปากเสีย ทุกคนพากันเงียบกริบหันมองก้อยที่นั่งฟังอยู่ด้วยเป็นตาเดียวกัน ยกเว้นผู้ใหญ่เงาะที่โวยลั่นว่าหรั่งมีเจ้านายสวยแล้วทำไมต้องเงียบด้วยมีใครหึงใครหรือ ก้อยค่อยๆเดินคลำผนังกลับห้องตัวเอง เช็งขอโทษที่เผลอพูดเรื่องนี้ทั้งที่หรั่งห้ามไว้

หรั่งไม่ได้ต่อว่าอะไรรีบเดินตามก้อย ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด เธอชิงพูดขึ้นก่อน ถ้าเขาคิดว่างานใหม่ น่าทำกว่าก็ตัดสินใจไปเลยไม่ต้องมาถามความคิดเห็นจากเธอ เขาอ้างว่าที่อยากจะเปลี่ยนงานใหม่ก็เพราะจะได้มีเงินมากพอมาใช้เป็นค่าผ่าตัดตาให้เธอ ก้อยไม่อยากให้เขาต้องลำบากเพื่อเธอขนาดนั้น ถ้าเขาคิดจะเปลี่ยนงานก็ให้ทำเพื่อตัวเองจะดีกว่า หรั่งเกรงว่าถ้ารับงานนี้แล้วจะมีเวลาดูแลเธอน้อยลง

“น้อยลงจากอะไร ที่จริงก้อยไม่มีสิทธิจะเรียกร้องเวลาจากหรั่งแม้เพียงเสี้ยววินาที แต่ที่ผ่านมาหรั่งให้ก้อยมาก...มากจนเผลอคิดว่าตัวเองอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองเป็นแค่เด็กกำพร้าตาบอดที่ซัดเซพเนจรมาเจอหรั่งโดยบังเอิญ”

“ก้อย...หรั่งไม่ได้ต่างอะไรจากก้อยเลยนะ ถ้าไม่มีก้อย หรั่งก็ไม่มีใคร เรากำพร้าพอๆกันนั่นแหละ”

“แต่วันหนึ่งหรั่งก็จะมีครอบครัวของตัวเอง ก้อยควรจะเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับวันที่จะไม่มีหรั่ง”

หรั่งสัญญาว่าจะไม่มีวันนั้น นอกจากเขาจะตายเสียก่อน แล้วขยับจะไป ก้อยเรียกไว้ ซักว่าเจ้านายใหม่ของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร สวยแค่ไหน หรั่งพยายามตอบเลี่ยงๆ ไม่อยากทำให้เธอสะเทือนใจ...

ทางฝ่ายเผ่าลาภอดเป็นกังวลไม่ได้เมื่อรู้ประวัติคร่าวๆของหรั่งจากแพรวาและนายสยาม กำชับลูกว่าถ้าเขาตกปากรับคำจะมาเป็นผู้ช่วยของเธอ ต้องพาเขามาพบท่านด้วย...

ดึกคืนเดียวกัน ก่อนแพรวาจะเข้านอน หยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเขียนหมายเหตุไว้ตรงกับวันที่เป็นเส้นตายที่จะได้รับคำตอบจากหรั่ง และหวังลึกๆว่าไอ้มดแดงฮีโร่ของเธอจะไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าขณะเดียวกันนั้น หรั่งซึ่งอยู่ที่บ้านเช่าในชุมชนจานเดี่ยวก็กำลังเขียนข้อความลงในสมุดบันทึกของตัวเองเช่นกันว่า

“นี่คือการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของไอ้มดแดง”

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ณ ที่ทำการของพรรคไทยไท บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ขณะที่เผ่าลาภซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคคนใหม่กำลังลงชื่ออยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนหน้าห้องประชุมใหญ่ สุริยะเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับชี้แจงว่าวันนี้ยังไม่มีอะไร หัวหน้าพรรคแค่อยากคุยกับกรรมการใหม่ทุกท่านเท่านั้น

“เอ่อ แล้วเรื่อง...” เผ่าลาภยังพูดไม่ทันจบ สุริยะรู้ทันรีบพูดขึ้นก่อนว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสัมปทาน เอาไว้เฮียมาจะให้เซ็นอนุมัติให้เลยดีไหม แล้วเดินหัวร่อร่าพาเผ่าลาภออกไป ทันทีที่ทั้งคู่คล้อยหลัง แสงเทพเจ้าของบริษัททำเหมืองคู่แข่งกับบริษัทของเผ่าลาภมาถึงโต๊ะลงทะเบียน ยืนรีๆรอๆเพราะไม่พบชื่อตัวเองในสมุดรายชื่อ

สุริยะถลาเข้ามาต้อนรับ แล้วหันไปสั่งเจ้าหน้าที่ให้จัดเอกสารมาให้แสงเทพหนึ่งชุด อ้างว่าท่านผู้นี้เป็นกรรมการพรรคที่หัวหน้าพรรคแต่งตั้งเพิ่มเติมเป็นคนสุดท้าย จึงไม่มีรายชื่อ แสงเทพกระซิบเสียงเข้มกับสุริยะ

“ผมเห็นมีชื่อเผ่าลาภด้วยนี่ ตกลงคุณจะให้คู่แข่งทางธุรกิจมาเป็นมิตรทางการเมืองหรือ”

“ใจเย็นๆก่อนคุณ...ความลับนะ เรารู้กันวงในว่าเขาคงจะอยู่ไม่นานหรอก อย่ากังวลไปเลย” สุริยะกระซิบตอบ แสงเทพยิ้มพอใจ...

ขณะที่เผ่าลาภไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกหักหลัง บารมีเอาเงินที่พี่ชายให้ไว้ใช้กอบกู้ธุรกิจไปเล่นพนันที่บ่อนเถื่อนของตะวันฉาย ผู้จัดการบ่อนสั่งเจ้ามือปล่อยให้เขาชนะพนันไปก่อนเพื่อให้ตายใจแล้วค่อยเชือดทีหลัง

ooooooo

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 3 วันที่ 20 ก.ย. 56

สุภาพบุรุษลูกผู้ชายบทประพันธ์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย บทโทรทัศน์โดย เมจิก อีฟ
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายกำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายผลิตโดย บริษัท คลิกเทเลวิชั่น จำกัด
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายวันเวลาออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ